ทวีปแอนตาร์กติก้า ที่ข้วโลใต้ พื้นที่บางส่วนของทวีปแห่งนี้ไม่เคยมีฝนตกมาเป็นเวลา 2 ล้านปีแล้ว
ในทางเทคนิคแล้ว คำจำกัดความของทะเลทรายคือ สถานที่ที่ได้รับน้ำฝนในปริมาณไม่ถึง 10 นิ้วต่อปี
ทะเลทรายซาฮาร่าได้รับน้ำฝนไม่ถึง 1 นิ้วในแต่ละปี
ประริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยของแอนตาร์กติก้าก็ไม่ต่างออกไปสักเท่าไหร่แต่ก็มีพื้นที่ 2 เปอเซ็นของทวีปนี้ที่ปราศจากน้ำแข็งและหิมะ รวมทั้งไม่มีฝนตกมาเลย พื้นที่บริเวณนี้มีชื่อเรียกว่าหุบเขาแห้ง (Dry Valley)
สถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลกรองลงมาคือ ทะเลทราย อะตากามาในประเทศชิลี
ซึ่งในบางพื้นที่ไม่มีฝนตกมานานกว่า 400 ปีแล้วและปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยตลอดทั้งปีก็น้อยกว่า 0.004 นิ้ว ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับทะเลทรายทั้งหมดแล้วมันจึงครองตำแหน่งทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดในโลกไปโดยปริยายเรียกได้ว่าแห้งแล้งกว่าทะเลทรายซาฮาร่ามากถึง 250 เท่าเลยทีเดียว
นอกจากแอนตาร์กติก้าจะเป็นสถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลกแล้ว มันยังเป็นสถานที่ที่มีน้ำมากที่สุดและมีลมกระโชกรุนแรงมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยคุณจะพบน้ำจืด 70 เปอร์เซ็นของโลก ได้ที่นี่ในรูปของน้ำแข็ง และความเร็วลมที่นี่ก็รุฯแรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกกันมาเลยทีเดียว
ลักษณะพิเศษของหุบเขาแห้งของแอนตารกติก้าเกิดขึ้นจากสายลมพัดลงเขา (Katabatic Wind) ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่ออากาศที่หนาวเหน็บและหนาแน่นถูกพัดลงมาจากภูเขาด้วยอิธิพลของแรงโน้มถ่วง ความเร็วลมดังกล่าวอาจรุณแรงได้ถึง 322 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ความชื้นทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของน้ำแข็ง น้ำ และหิมะ ระเหยไปจนหมด
แม้ว่าแอนตาร์กติกาจะเป็นทะเลทราย แต่เรื่องน่าขันคือพื้นที่ตรงส่วนที่แห้งที่สุดของทวีปกลับถูกเรียกว่า โอเอซิส มันมีสภาพคล้ายกับดาวอังคารมากจนนาซ่าใช้เป็นสถานที่ทดสอบภารกิจของยานไวกิ้ง
วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
สถานที่ใดแห้งแล้งที่สุดในโลก
ป้ายกำกับ:
ทวีปแอนตาร์กติก้า,
ทะเลทราย,
ทะเลทรายซาฮาร่า,
ทะเลทรายอะตากามา,
อะตากามา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น